ดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำอย่างถูกวิธี




  • ดื่มน้ำให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายดีที่สุด ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ แก้ว ทั้งนี้รวมถึงน้ำที่ร่างกายได้รับทั้งหมดในแต่ละวัน เช่น น้ำจากผัก ผลไม้ น้ำซุป หรือน้ำก๋วยเตี๋ยว ผู้ที่มีน้ำหนักมากควรดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก และจะต้องเพิ่มขึ้นอีกสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย การดื่มน้ำมากเกินไปจะทำให้ร่างกายทำงานหนักและทรุดโทรมก่อนวัย มีอาการท้องอืดและปัสสาวะบ่อย



  • ควรดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอน 3-5 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสีย และสารพิษในร่างกาย ก่อนรับประทานอาหาร 1ชั่วโมง ไม่ควรดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหาร และหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยไม่มีประสิทธิภาพ ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ ควรดื่มน้ำหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 15-30 นาที เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยให้หมดก่อน ในระหว่างวันให้ค่อยๆ ดื่ม เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า ไม่ควรดื่มน้ำทีละมากๆ เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ช้า เกิดอาการจุกเสียด อึดอัดท้อง เพิ่มภาระให้กับระบบขับถ่ายอย่างไต ปอด ม้าม และระบบย่อยอาหาร

    • ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม เพราะจะไปเพิ่มปริมาณแก๊สและกรดในกระเพาะ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด
      อาหารไม่ย่อย ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัดเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำมากกว่าปกติ
    • น้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือ น้ำอุณหภูมิปกติไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ในระบบหมุนเวียนเลือดได้เลย การดื่มน้ำร้อนจะทำลายเยื่อบุช่องปากและทางเดินอาหาร เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรค การดื่มน้ำเย็นจัดก็ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน จะทำให้เส้นเลือดที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารหดตัวลง กว่าเซลล์จะปรับตัวและขยายตัวเพื่อดูดซึม ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการปรับอุณหภูมิก่อนดูดซึม จึงมักเกิดอาการจุกหน้าอกเมื่อกระหายน้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร เป็นผลให้ร่างกายอ่อนแอ งานวิจัยพบว่าการดื่มน้ำเย็นจัดมากเกินไปในยามที่ร่างกายไม่ได้เกิดความรู้สึกกระหายน้ำ จะทำให้ขีดวามสามารถในการทำงานของสมองลดลงไปทันที มีผลกระทบต่อการขับรถ หรือทำงานที่ต้องใช้สมอง หรือความคิดมาก ๆ โดยน้ำเย็นจัดเพียงแค่แก้วเดียวก็มากพอที่จะทำให้สมรรถภาพทางจิตใจของบางคนลดลงไปถึง 15% อีกด้วย
    • การดื่มน้ำจากกระติกไฟฟ้าแบบต้มน้ำอัตโนมัติซึ่งเดือดแล้วเดือดอีกทำให้สารพิษตกค้างในร่างกาย ปริมาณของเกลือไนเตรทในน้ำจะเพิ่มขึ้น ดื่มมากจะเกิดอาการท้องเสียหรือท้องอืด และทำให้สารฮีโมโกลบินหรือโปรตีนสีแดงไม่สามารถผสมและแยกตัวออกจากออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ได้จนเกิดอาการขาดออกซิเจน กระทั่งส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ระบบขับถ่ายปัสสาวะและระบบการสร้างเซลเม็ดเลือด ดังนั้น เมื่อต้มน้ำเดือดแล้ว ควรดึงปลั๊กไฟออก ดื่มจนหมดแล้วค่อยต้มใหม่ อย่าปล่อยให้น้ำถูกต้มแล้วต้มอีก
    • ดื่มน้ำบรรจุขวดบ่อยๆ ทำให้ขาดแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย เนื่องจากน้ำดื่มบรรจุขวด มักจะเป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการกลั่นกรอง ฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย จนกลายเป็นน้ำที่สะอาดมาก แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้สารแคลเซียม แมกนีเซียมและสารอื่นๆ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างการหายไปหมด ดื่มบ่อยๆ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะไม่ดีต่อผู้สูงอายุและเด็ก จะทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้ง่าย จึงไม่ควรดื่มบ่อยๆ

นอกจากการดื่มน้ำที่สะอาดอย่างถูกวิธีแล้ว การดื่มน้ำที่ดีก็มีผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพที่ดีโดยองค์รวม ไม่ทำร้ายสุขภาพ ป้องกันและบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ เนื่องจากสภาพร่างกายของมนุษย์ในยุคปัจจุบันมีสภาพที่ขาดความสมดุล มีความเป็นกรด มีสารพิษ สารเคมีจากอาหารที่บริโภค ความเครียด เป็นต้น ดังนั้นเป็นสี่งที่สำคัญยิ่งที่คุณสมบัติของน้ำที่ดื่มหรือบริโภคควรจะต้องมีสภาพความเป็นด่าง เพื่อเติมเต็มและซ่อมแซมสุขภาพที่ขาดความสมดุลเช่นทุกวันนี้